‘ตุ้ยAF’ ควงแม่เล่าความรักความสัมพันธ์ และก็ความกล้าหาญที่แทบตัดแม่ตัดลูกเพราะเหตุว่าสตรี ตุ้ย เกียรติยศดวงใจ นักร้อง ดาราหนังชายหนุ่มมากเรื่องมากความสามารถ ที่วันนี้ควงแม่น้อย มาเปิดใจถึงความกล้าหาญยุคเด็กสุดแสบ ถึงขนาดจำต้องขึ้นโรง ไปศาล พร้อมเล่าเรื่องสุดพีค เกือบจะตัดแม่ตัดลูก ด้วยเหตุว่าเพศหญิง ทั้งยังยังกล่าวว่าชีวิตนี้ไม่คิดจะสมรส โดยทั้งปวงนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ยุคเด็กพี่ตุ้ยซนมากมาย ซุกซนแค่ไหน? แม่น้อย : ถ้าหากตามไม่ทัน ตามไม่ถึงคงจะห่วย หนึ่งดูดบุหรี่ ทีแรกด้ามจับได้ยกโทษก่อน ครั้งที่2 ซักผ้า พบอีกในกระเป๋า พอกลับจากสถานที่เรียนถามคำถามว่าตุ้ยดูดบุหรี่หรอ ไม่นะครับ ก็เลยยืนขึ้นไปพบ ตบปากเลย เขาบอกถ้าเกิดตุ้ยไม่ดูด สหายมันกล่าวหาตุ้ยไม่แน่ ตุ้ย : ผมก็ยังไม่หยุดนะ ก็ไปแอบกินเหล้าคราวแรก ภายหลังที่แม่ห้ามเลิกหรือยัง? ตุ้ย : หยุด แม้กระนั้นกินเหล้า ผมมีความคิดว่าคงจะไม่น่าจะได้กลิ่น ก็กลับไปอยู่ที่บ้านไปพบเขา แม่น้อย : กลับไปอยู่ที่บ้านไปก็หน้าแดงมาแต่ไกล กำลังนั่งรีดผ้าอยู่ เขาเดินผ่านไปกลิ่นละลอดมันโชยจังเลย ตุ้ยไปดื่มเหล้ามาหรอ แม่แดดร้อนจะตาย แม่มองเห็นไหมละ แม่วางเตารีดแล้วลุกขึ้นยืนไปพบ ตบไปทีนึง เขาบอกครับผม รับประทานก็ได้ แล้วเหตุที่ทำให้แม่ไล่พี่ตุ้ยออกมาจากบ้านเป็นสถานะการณ์ไหน? ตุ้ย : ก็อาจเกิดเรื่องเจาะหู ตอนนั้นเป็นช่วงๆที่มาครบถ้วนเลย ก็เริ่มเจาะหู แอบเจาะกับเพื่อนพ้อง แล้วพวกเราก็จะใส่ก้านกระเทียม กลัวแม่มองเห็น คนทำผิดอะพี่ กลับไปถึงยังหน้าบ้านพบแม่ แม่น้อย : พวกเราพบกันก็กอดกัน แต่ว่ามือไปโดนหู แม่เพราะอะไรจะต้องโกรธขนาดนั้น เพียงแค่เจาะหู แม่น้อย : แม่ขอเขาแล้ว อุตส่าห์ล้างส้วมส่งจบปริญญาตรี สองเป็นบรรพชาให้แม่ แล้วพอเพียงเอ็งโตขึ้นมาเอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็งแล้ว ตุ้ย : เป็นราวกับทำผิดเวลา พอเพียงจับได้ว่าเจาะหูแล้วทำอย่างไรต่อ? แม่น้อย : เอ็งไปเอาก้านกระเทียมที่หูเอ็งออกแล้วแกไปจากบ้านข้าเลย นี่เป็นความจริง ตุ้ย : แล้วผมก็ถอดออก แล้วดื้อดึงแอบใส่ดังเดิม พักนึงก็เสมือนเขาเห็นด้วยแล้ว แล้วไปซื้อตุ้มหูทองคำให้ผมใส่ แม่น้อย : อันนี้เป็นขึ้นปริญญาตรีแล้ว ตุ้ย : มันคือเรื่องของการทำในสิ่งที่ผิดเวลา ในช่วงเวลานั้นมันยังเด็กอยู่ ยังไม่จบ เจาะหูเสร็จปุบปับ ต้องการสัก ในช่วงเวลานั้นอายุยังน้อย ทรัพย์สินก็ไม่ค่อยมี ถ้าหากไปสักตามร้านค้าก็จะแพง เคยคุยเรื่องสักกับแม่ไหม? ตุ้ย : ไม่คุย อันนี้ผมก็แอบเลย ก็ไปเอาเข็มเบอร์ใหญ่สุดมาผูกรวมกัน แล้วเอาน้ำหมึกจีนมา มานั่งทิ่มแทงเอง แล้วเดี๋ยวนี้ก็จำเป็นต้องมาแก้รอยสัก แม่น้อย : แล้วอันหน่อยเดียว สวมเสื้อยืดอยู่ประจำแล้วแม่จับได้ เพราะเหตุใดถึงสวมเสื้อยืดคอกลมประจำ ไปแอบสักมา ก็จับถลกมองเลย เพียงพอมองเห็นเพียงแค่นั้นล่ะ นี่แหละถึงได้มาให้คำมั่นกัน ตุ้ยนะครับจะให้แม่กราบแม่ก็ยอม ตุ้ยเรียนให้แม่จบปริญญาตรีก่อนได้ไหม สองเป็นคนประเทศไทยเขาอยากให้ลูกบรรพชา เนื่องจากมีลูกชายผู้เดียวด้วย บรรพชาให้แม่ก่อน พอเพียงตุ้ยพ้นนับตั้งแต่นี้ต่อไป ตุ้ยจะทำอะไรตุ้ยทำไปเลย แม่ไม่ว่าอยู่แล้ว ตราบจนกระทั่งจบปริญญาตรีก็เลิกนะ สิ่งเลวร้ายก็เบาๆลดน้อยลง แต่ว่าจะมีเรื่องมีราวเพศหญิงมากมาย ลูกชายซนขนาดนี้ อันนี้เป็นต้นเหตุเลยไหมที่ทำให้ท่านแม่ตามพี่ตุ้ยทุกฝีก้าว? แม่น้อย : ใช่จ้ะ ตุ้ย : ในตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ ตอนที่มัน แม่จะเป็นคนตามลูกอยู่เสมอ โดยที่ผมไม่รู้ตัว มีเรื่องราวที่ผมท่องเที่ยวกับสหาย เริ่มดื่ม เริ่มอะไรแบบนี้ก็จะขอแม่นอนบ้านเพื่อนฝูง เขายอมนะ แม้กระนั้นเวลาเช้าเขานั่งรถประจำทางตามมามอง ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้ พึ่งมารู้ตอนโตแล้ว ม่าม้าตามแค่ไหน? แม่น้อย : ตอน ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงก็ไปกับเพื่อนฝูงนี่แหละ ขอแม่ แม่ตุ้ยขอไปประเพณีลอยกระทงนะ ต่อไปนี้สหาย 5-6 คนจำได้แม่นเลย ไปราวๆหนึ่งนาฬิกาครึ่งโทรมากล่าวว่าแม่ตุ้ยขอนอนบ้านสหายนะ สหายที่ใด เมื่อสักครู่ให้คำมั่นกับแม่ว่าประเพณีลอยกระทงเสร็จจะกลับ เขาเฉลี่ยวฉลาด เขาให้เพื่อนฝูงช่วยเหลือกันโทร ตุ้ย : เขาก็ปลดปล่อยให้นอนจริง แม้กระนั้นตอนเวลาเช้า แม่น้อย : ก็ไปที่มหาวิทยาลัยเขา มันมีบ้านพักอยู่ ไปขอยาม ยามก็พูดว่ามิได้ครับผมป้า มันไม่ถึงเวลา นู้น โน่นนี่ ยกมือขึ้นไหว้ยาม ป้าขอไปดูลูกป้านิดเดียว เนื่องจากมันพูดว่ามันมานอนอยู่ที่ตรงนี้ เขาก็เลยให้ไป เพียงพอไปถึงมันจะมีบานเกร็ด พอเพียงดูเข้าไปมันนอนเรียงกันเป็นแนวจริงๆ5-6 คน แม่ก็เลยนั่งรถยนต์กลับมาที่ตนเองดำเนินงานอยู่ ความลับก็เป็นความลับไป พึ่งจะมาเผยตอนเป็น AF แม่ตามทุกๆอย่าง มีความคิดเห็นว่าในขณะที่พี่ตุ้ยเป็น AF มีเรื่องต่อยจนกระทั่งจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล? ตุ้ย : ยังไม่ถึงกับขนาดขี้นศาล แต่ว่าเป็นช่วงๆใหม่ๆที่พึ่งเข้าแวดวง ลืมไปว่าบางสิ่งบางอย่าง อะไรบางอย่างทำไม่ได้นะ ในสมัยที่คุณเป็นที่รู้จักแล้ว มันกำเนิดอะไรขึ้น? ตุ้ย : เป็นอยู่ในผับ ในร้านเหล้าตนเอง ในร้านค้ามันมีปัญหากับรุ่นพี่พวกเรา เขาก็ห้ามกันไปๆมาๆแล้วไหลมาถึงผม ผมก็เอาซะเลย เข้ามานึกออกหมัดเดียวเป็นหมัดแรก เป็นตุ้ยAF แล้วเขาจะไปฟ้องร้อง แม้กระนั้นโชคดีตัวเขาก็ไม่ถูก รุ่นพี่ที่พาเขามาก็ไม่ถูก เขาก็เลยเตือนว่าให้มันจบๆไปเลยดีมากยิ่งกว่า ก็เป็นโชคดีของพวกเราไปมิได้เป็นความเป็นอะไร แม้กระนั้นความเจ้าอารมณ์ของพวกเราที่มันไม่สมควร ตอนนี้เลยไขปัญหาด้วยการไม่ออกไปดื่มไหนแล้ว อยู่บ้านดียิ่งกว่า ประเด็นนี้แม่ทราบไหม? แม่น้อย : ช่วงแรกไม่เคยรู้ มารู้คราวหน้าจากพวกพ้องเขานั่นแหละ มีความเห็นว่าเรื่องเจ้าชู้เป็นชั้น1 เลย จริงไหมขาม่าม้า? แม่น้อย : เยอะแยะจ้ะ แต่ว่าก็ไม่รู้เรื่องอย่างไร แบบไหนนะ เขากล่าวว่าเป็นแบดบอยจริงไหม? แม่น้อย : เขาลือกัน แม้กระนั้นจริงๆมันไม่ค่อยมีมาให้มองเห็นนะ ตุ้ย : มันเป็นตอนๆเวลา ก่อนเป็นตุ้ยAF ผมร้องเวลากลางคืนมาก่อน แล้วผมมิได้ร้องร้านเหล้าปกติ ผมร้องค็อกเทลเลาจน์ ก็จะมีแม่น้องนางมากมายไปหมด ตุ้ยเคยคุยมากที่สุด พร้อมกี่คน? ตุ้ย : ก็มีสไลด์โทรศัพท์เคลื่อนที่วันนี้พวกเราไปส่งผู้ใดดี ตอนเดือดๆนะ ก็ 6-7 คนไม่จำนวนไม่ใช่น้อยอดีตสมัยพวกเราร้องค่ำคืน แล้วพวกเรายังใหม่ๆอยู่ พึ่งจะ 20 แล้วผู้หญิงงามๆเยอะไปหมด มองเห็นกล่าวว่าทุกเมื่อเชื่อวันไม่มีขาด? ตุ้ย : เป็นผมไม่เคยไม่มีแฟนนะ แต่ว่ามันมิได้ถึงกับขนาดว่าเจ้าชู้มาทีเดียวไม่น้อยเลยทีเดียวมันเป็นตอนช่วงเวลา ตอนขับร้องยามค่ำคืนมันเป็นอะไรที่ห้ามมิได้เลย ความเจ้าชู้ทำพี่ตุ้ยปางตายมาแล้ว? ตุ้ย : อันนี้ท่องเที่ยวละ พวกเราก็จีบอะไร ได้คอนแท็กมาสักคนนึง แล้วพวกเราก็ตามเรื่อง พวกเราก็ได้ไปห้องเขา ทำกิจกรรมเสร็จก็มีเสียงเคาะประตู สตรีก็วิ่งไปดูที่ตาแมวแล้ววิ่งเข้าห้องอาบน้ำ พวกเราก็อยู่ในชุดกางเกงยีนตัวเดียวไม่มีเสื้อ ต่อนี้ไปเขาไขทางเข้ามา พวกเราก็ตั้งรับแล้ว เขากล่าวว่าแกรีบออกไปก่อนเราทนไม่ได้ ผมก็คว้าของออกมาเกือบจะไม่ทัน พอเพียงมาเล่าให้แม่ฟัง ยินดีในลูกตนเองไหม แม่น้อย : ก็สม ตุ้ย : อันนี้พวกเรามารู้คราวหน้า ว่าหญิงเพียรพยายามเลิกกับเพศชายคนนี้อยู่แล้ว แล้วเพศชายคนนี้เขาก็ใช้สิทธิ์ที่เขายังมีกุญแจอยู่ ก็ยังไม่ขาด แม่น้องนางอาจรู้สึกว่าวันนี้เพศชายคนนี้อาจไม่มามั้งก็เลยพาผมเข้าไป ต่อจากนั้นระวังมากยิ่งขึ้นไหม? ตุ้ย : ไม่ไปห้องคนใดกันแน่อีกเลย กลัวไปเลย เขาพูดว่าคุณเป็นคนเฒ่าหัวงูมากมายเลย คุณสารภาพไหม? ตุ้ย : มันเป็นจังหวะ ตอนๆตอนนี้ไม่มีแล้วนะ ผมไม่ล็อกแล็ก มนุษย์เรามันชอบมีอดีตกาลที่ปวด ก็เลยทำให้พวกเรามีปัจจุบันนี้ที่เป็นการแก้เผ็ด หมายความว่าคุณเคยอกหัก กระทั่งทำให้มีความคิดว่าความเจ้าชู้มันตอบปัญหาหรือไม่? ตุ้ย : ก็ด้วยนะครับ ถ้าหากจะเอาแบบทีแรกในชีวิต ก็คงเป็นรักแรกพบของผม ก็โดนสวมเขา พวกเราก็คบกับคนนี้ มีการไปรับไปส่งอยู่เสมอเวลาในยุคเรียน มันราวกับซีนในละครเลย แฟนพวกเราก็ลงรถพวกเราไปพบเพศชายคนนึง มันมีซีนคลำหัว พวกเราก็แบบคนนี้ผู้ใดวะ แฟนพวกเราก็กล่าวว่าน้า ผมก็ฉงนใจกลับไปอยู่บ้าน กลับมาแม่ก็จะมองเห็นของกินลูกชายตนเอง รับประทานมิได้ นอนไม่หลับ แม่ก็เลยมาถามเป็นอะไร ผมก็เลยบอกไปว่าที่ไปส่งที่ตรงนี้มันบ้านของคนไหนกันแน่ เขาก็เลยบอกไป สักครู่เราไปเป็นเพื่อน เพื่อพาไปดูว่าเรื่องราวคนนี้คืออะไร เขาก็ยืนเฝ้าจักรยานยนต์ผม แล้วผมก็เดินขึ้นไปจุดที่ผมไปส่ง ก็จะมองเห็นบานเกร็ด ด้านในมีผ้าม่านลอยละลิ่วไหว ซีนที่ผมมองเห็นผ่านบานเกร็ดไปเป็น แฟนพวกเรานอนอยู่กับน้าคนนั้นในผ้าที่มีไว้ห่ม พวกเราก็แค่เคาะประตูให้เขาออกมา เขาก็ออกมาทั้งสองผมก็กล่าวว่านี่น้าเอ็งหรอ แล้วผมก็พาตรงข้ามสองคนแม่ลูก ซึ่งมารู้คราวหน้าจากเพื่อนพ้องของสตรีเขามาบอก ก็ดีวันนั้นที่มิได้มีปัญหาอะไรกัน ด้วยเหตุว่าเพศชายคนนั้นยืนไขว้หลังถือมีดอยู่ ระหว่างขับรถเครื่องหลับไปร้องไห้ไหม แม่น้อย : ร้องไห้ด้วย ดุด้วย ว่าเป็นอย่างไรละขณะที่แม่บอก แม่เตือน เป็นในสถานที่เรียนเขาจะเอาตุ้ยเป็นแฟน แต่ว่าภายนอกไม่รู้เรื่องว่าคนนี้เลี้ยงดูอยู่หรือไม่ พวกเราไม่รู้จัก แม่ไม่ปลอบโยนลูกชายหน่อยหรอ? แม่น้อย : ปลอบโยน เมื่อใดก็ตามตีกัน ก็จะมานั่งคลำหัวกัน อันนี้มันเป็นเรื่องมันแล้วไปแล้ว พวกเราเริ่มต้นใหม่ ทุกๆอย่างจะบอกคำนี้กัน แล้วตุ้ยจะเบาๆดียิ่งขึ้น แล้วการอกหักคราวไหนที่ทำให้เกือบจะตัดแม่ตัดลูกกัน? ตุ้ย : อันนี้เป็นตุ้ยAF ละนะ พอเพียงเข้าแวดวงพวกเราก็จะเห่อหน่อย แม้กระนั้นไม่ถึงขั้นลืมตัว ก็มีหญิงเข้ามามากมาย แล้วพวกเราก็คบกับหญิงคนนี้เกิดเรื่อง เป็นราวแม่รับทราบ ซึ่งมิได้เห็นค่าความรักที่เขาให้กับพวกเรา พวกเราก็จะไปเรื่อยเปื่อย พูดปด เจ้าชู้แบบทึ่มๆบ้าง แล้วพวกเราก็รู้สึกว่าเขาอาจจะจับมิได้ ท้ายที่สุดเขามาหักดิบบอกยกเลิกเลย จะตายพี่ เป็นคนดื่มหนักๆโดยประมาณ 6-7 เดือน เสียรูป 3-4 ปีที่ไม่ลืมเลือนเขา เพียงพอเลิกกับเขา ผมไปพบสตรีตั้งเท่าใดก็ไม่ใช่แบบเขา มันก็เลยเปลี่ยนไปเป็นว่ายิ่งฝังใจ แม่น้อยมองเห็นผมเศร้าใจ ร้องไห้ ตอนแรกๆก็ปลอบประโลมอยู่หรอก แม่น้อย : เคยแย่งโทรศัพท์ไปคุยกับหญิงคนนั้นด้วย แต่ว่าเขาไม่เอายังไง ตุ้ย : เป็นพากเพียรขอคืนดีแทนผม แม่น้อย : บอกกับลูกว่าเอ็งอยากได้เขานักใช่ไหม เอ็งก็ไปอยู่กับเขาเลย ออกไปจากบ้านแม่เลย คิดซะว่าไม่มีบ้าน คิดซะว่าไม่มีแม่ อันนั้นเป็นไล่ความเป็นจริงเลยค่ะ ตัดแม่ ตัดลูกไปเลย? แม่น้อย : ตัดแม่ตัดลูกไปเลย แม่อยู่ได้ เขาก็หันกลับมากมายอดแม่ รวมทั้งกอดคอกันร้องไห้ ก็เบาๆดียิ่งขึ้นตั้งแต่วันนั้นมา รู้สึกโทรศัพท์ก็คุยลดลง ทื่อเขาลดน้อยลง พี่ตุ้ยคิดอย่างไรในขณะที่แม่บอกตัดแม่ตัดลูก? ตุ้ย : มิได้นะ นี่แม่นะ ก็เสมือนเรียกสติกลับมาล่ะกับประโยคเด็ดๆอย่างงี้ จากขาดสติมาตั้งนับเป็นเวลาหลายเดือน นับเป็นเวลาหลายปี ก็นับว่าเป็นบทเรียนที่ดี ที่ทำให้ผมหยุด แล้วไม่รังควานคนไหนอย่างงี้อีก ในช่วงเวลานั้นเป็น AF แล้วด้วย ร้องไห้ปฏิบัติงานมิได้ แม่หวงลูกชายไหม? แม่น้อย : ไม่หวงนะ แม่ว่าแม่ห่วงเขามากยิ่งกว่า หากพบคนดีหรือเพศหญิงดี แม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนอยู่กับสตรี สักครู่ไม่นาน แม่ก็ตายแล้ว ในขณะนี้ลูกชายแม่ไม่มีคู่ไหม? แม่น้อย : จะว่าไม่มีคู่ครองก็ไม่เชิง แต่ว่าไม่มีเป็นตัวเป็นตน ตุ้ย : ก็มีพี่ จำนวนมากผมไม่คบคนภายในแวดวงเบิกบานร่วมกัน เพราะว่าผมเป็นคนใจคอคับแคบ ตอนที่อยู่ในแวดวงสนุกสนานมาปีนี้ปีที่15 ก็มิได้ว่าง มันมี มันเป็นตอนเวลาการดูจิตใจกัน ซึ่งถ้าหากมันจบลงผมค่อยมาบอกทีเดียวดีมากกว่า ไม่ต้องการที่จะอยากบอกหลายรอบในเวลานี้ผมคบน้องเอ อยู่นะ ครู่หนึ่งเลิกอีกละ เนื่องจากว่าอายุมันมากเพิ่มขึ้น ความนึกคิดมันก็แปรไป ยุควัยรุ่นพวกเราก็จะคิดต้องการสมรส ต้องการมีลูก พอเพียงในในขณะนี้มันแปลงเป็นว่าไม่ต้องการสมรส ไม่ต้องการที่จะอยากมีลูก ถ้าหากสมมุติจำเป็นต้องจบจบกับเพศหญิงที่พวกเราคบอยู่เนี่ย มิได้เป็นการไม่ให้เกียรติหญิงนะพี่ หากจำต้องจบจบก็อาจจะต้องไปพบบิดา แม่ เขาล่ะ เพราะเหตุใดถึงมีความรู้สึกว่าจะไม่มีลูก? ตุ้ย : ผมเพียงแค่มีความรู้สึกว่าหากลูกออกมา ผมมิได้คิดจะพึ่งลูก ไม่มีความจำเป็นต้องมีก็ได้ แล้วแม่กับป๊าที่บ้านเขามิได้ซีเรียส เขาก็ไปอุ้มเด็ก เล่นกับเด็กในหมู่บ้านแทนก็มิได้ขาดอะไร แม่ไม่ซีเรียสเนอะหากไม่มีหลาน? แม่น้อย : ไม่ต้องการมีแล้วจ้ะ แก่แล้ว เลี้ยงไม่ไหว ม่าม้าเป็นห่วงอะไรพี่ตุ้ยบ้าง? แม่น้อย : ชั่วโมงนี้เพียงแค่จำเป็นต้องรอเตือนสติกันว่าเศรษฐกิจแบบนี้จำเป็นต้องรับประทานเป็น ใช้เป็นนะ พวกเราจะได้ไม่ต้องลำบาก แล้วอีกอย่างนึงอย่าดื่มให้มันมากมายนัก พี่ตุ้ยต้องการบอกอะไรแม่บ้าง? ตุ้ย : เวลานี้พอใจ ผมจัดว่าโชคดีที่คุณพ่อและก็คุณแม่ผมไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรคประจำตัวอะไรก็แล้วแต่เลย ซึ่งต้องการให้เขาดูแลตนเองอย่างงี้ล่ะ ขั้นต่ำ พวกเราก็มีกัน
Share post:
‘ตุ้ยAF’ ควงแม่เล่าความรักความสัมพันธ์ และก็ความกล้าหาญที่แทบตัดแม่ตัดลูกเพราะเหตุว่าสตรี
ตุ้ย เกียรติยศดวงใจ นักร้อง ดาราหนังชายหนุ่มมากเรื่องมากความสามารถ ที่วันนี้ควงแม่น้อย มาเปิดใจถึงความกล้าหาญยุคเด็กสุดแสบ ถึงขนาดจำต้องขึ้นโรง ไปศาล พร้อมเล่าเรื่องสุดพีค เกือบจะตัดแม่ตัดลูก ด้วยเหตุว่าเพศหญิง ทั้งยังยังกล่าวว่าชีวิตนี้ไม่คิดจะสมรส โดยทั้งปวงนี้เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31
ยุคเด็กพี่ตุ้ยซนมากมาย ซุกซนแค่ไหน?
แม่น้อย : ถ้าหากตามไม่ทัน ตามไม่ถึงคงจะห่วย หนึ่งดูดบุหรี่ ทีแรกด้ามจับได้ยกโทษก่อน ครั้งที่2 ซักผ้า พบอีกในกระเป๋า พอกลับจากสถานที่เรียนถามคำถามว่าตุ้ยดูดบุหรี่หรอ ไม่นะครับ ก็เลยยืนขึ้นไปพบ ตบปากเลย เขาบอกถ้าเกิดตุ้ยไม่ดูด สหายมันกล่าวหาตุ้ยไม่แน่
ตุ้ย : ผมก็ยังไม่หยุดนะ ก็ไปแอบกินเหล้าคราวแรก
ภายหลังที่แม่ห้ามเลิกหรือยัง?
ตุ้ย : หยุด แม้กระนั้นกินเหล้า ผมมีความคิดว่าคงจะไม่น่าจะได้กลิ่น ก็กลับไปอยู่ที่บ้านไปพบเขา
แม่น้อย : กลับไปอยู่ที่บ้านไปก็หน้าแดงมาแต่ไกล กำลังนั่งรีดผ้าอยู่ เขาเดินผ่านไปกลิ่นละลอดมันโชยจังเลย ตุ้ยไปดื่มเหล้ามาหรอ แม่แดดร้อนจะตาย แม่มองเห็นไหมละ แม่วางเตารีดแล้วลุกขึ้นยืนไปพบ ตบไปทีนึง เขาบอกครับผม รับประทานก็ได้
แล้วเหตุที่ทำให้แม่ไล่พี่ตุ้ยออกมาจากบ้านเป็นสถานะการณ์ไหน?
ตุ้ย : ก็อาจเกิดเรื่องเจาะหู ตอนนั้นเป็นช่วงๆที่มาครบถ้วนเลย ก็เริ่มเจาะหู แอบเจาะกับเพื่อนพ้อง แล้วพวกเราก็จะใส่ก้านกระเทียม กลัวแม่มองเห็น คนทำผิดอะพี่ กลับไปถึงยังหน้าบ้านพบแม่
แม่น้อย : พวกเราพบกันก็กอดกัน แต่ว่ามือไปโดนหู
แม่เพราะอะไรจะต้องโกรธขนาดนั้น เพียงแค่เจาะหู
แม่น้อย : แม่ขอเขาแล้ว อุตส่าห์ล้างส้วมส่งจบปริญญาตรี สองเป็นบรรพชาให้แม่ แล้วพอเพียงเอ็งโตขึ้นมาเอ็งจะทำอะไรก็เรื่องของเอ็งแล้ว
ตุ้ย : เป็นราวกับทำผิดเวลา
พอเพียงจับได้ว่าเจาะหูแล้วทำอย่างไรต่อ?
แม่น้อย : เอ็งไปเอาก้านกระเทียมที่หูเอ็งออกแล้วแกไปจากบ้านข้าเลย นี่เป็นความจริง
ตุ้ย : แล้วผมก็ถอดออก แล้วดื้อดึงแอบใส่ดังเดิม พักนึงก็เสมือนเขาเห็นด้วยแล้ว แล้วไปซื้อตุ้มหูทองคำให้ผมใส่
แม่น้อย : อันนี้เป็นขึ้นปริญญาตรีแล้ว
ตุ้ย : มันคือเรื่องของการทำในสิ่งที่ผิดเวลา ในช่วงเวลานั้นมันยังเด็กอยู่ ยังไม่จบ เจาะหูเสร็จปุบปับ ต้องการสัก ในช่วงเวลานั้นอายุยังน้อย ทรัพย์สินก็ไม่ค่อยมี ถ้าหากไปสักตามร้านค้าก็จะแพง
เคยคุยเรื่องสักกับแม่ไหม?
ตุ้ย : ไม่คุย อันนี้ผมก็แอบเลย ก็ไปเอาเข็มเบอร์ใหญ่สุดมาผูกรวมกัน แล้วเอาน้ำหมึกจีนมา มานั่งทิ่มแทงเอง แล้วเดี๋ยวนี้ก็จำเป็นต้องมาแก้รอยสัก
แม่น้อย : แล้วอันหน่อยเดียว สวมเสื้อยืดอยู่ประจำแล้วแม่จับได้ เพราะเหตุใดถึงสวมเสื้อยืดคอกลมประจำ ไปแอบสักมา ก็จับถลกมองเลย เพียงพอมองเห็นเพียงแค่นั้นล่ะ นี่แหละถึงได้มาให้คำมั่นกัน ตุ้ยนะครับจะให้แม่กราบแม่ก็ยอม ตุ้ยเรียนให้แม่จบปริญญาตรีก่อนได้ไหม สองเป็นคนประเทศไทยเขาอยากให้ลูกบรรพชา เนื่องจากมีลูกชายผู้เดียวด้วย บรรพชาให้แม่ก่อน พอเพียงตุ้ยพ้นนับตั้งแต่นี้ต่อไป ตุ้ยจะทำอะไรตุ้ยทำไปเลย แม่ไม่ว่าอยู่แล้ว ตราบจนกระทั่งจบปริญญาตรีก็เลิกนะ สิ่งเลวร้ายก็เบาๆลดน้อยลง แต่ว่าจะมีเรื่องมีราวเพศหญิงมากมาย
ลูกชายซนขนาดนี้ อันนี้เป็นต้นเหตุเลยไหมที่ทำให้ท่านแม่ตามพี่ตุ้ยทุกฝีก้าว?
แม่น้อย : ใช่จ้ะ
ตุ้ย : ในตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ ตอนที่มัน แม่จะเป็นคนตามลูกอยู่เสมอ โดยที่ผมไม่รู้ตัว มีเรื่องราวที่ผมท่องเที่ยวกับสหาย เริ่มดื่ม เริ่มอะไรแบบนี้ก็จะขอแม่นอนบ้านเพื่อนฝูง เขายอมนะ แม้กระนั้นเวลาเช้าเขานั่งรถประจำทางตามมามอง ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้ พึ่งมารู้ตอนโตแล้ว
ม่าม้าตามแค่ไหน?
แม่น้อย : ตอน ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงก็ไปกับเพื่อนฝูงนี่แหละ ขอแม่ แม่ตุ้ยขอไปประเพณีลอยกระทงนะ ต่อไปนี้สหาย 5-6 คนจำได้แม่นเลย ไปราวๆหนึ่งนาฬิกาครึ่งโทรมากล่าวว่าแม่ตุ้ยขอนอนบ้านสหายนะ สหายที่ใด เมื่อสักครู่ให้คำมั่นกับแม่ว่าประเพณีลอยกระทงเสร็จจะกลับ เขาเฉลี่ยวฉลาด เขาให้เพื่อนฝูงช่วยเหลือกันโทร
ตุ้ย : เขาก็ปลดปล่อยให้นอนจริง แม้กระนั้นตอนเวลาเช้า
แม่น้อย : ก็ไปที่มหาวิทยาลัยเขา มันมีบ้านพักอยู่ ไปขอยาม ยามก็พูดว่ามิได้ครับผมป้า มันไม่ถึงเวลา นู้น โน่นนี่ ยกมือขึ้นไหว้ยาม ป้าขอไปดูลูกป้านิดเดียว เนื่องจากมันพูดว่ามันมานอนอยู่ที่ตรงนี้ เขาก็เลยให้ไป เพียงพอไปถึงมันจะมีบานเกร็ด พอเพียงดูเข้าไปมันนอนเรียงกันเป็นแนวจริงๆ5-6 คน แม่ก็เลยนั่งรถยนต์กลับมาที่ตนเองดำเนินงานอยู่ ความลับก็เป็นความลับไป พึ่งจะมาเผยตอนเป็น AF แม่ตามทุกๆอย่าง
มีความคิดเห็นว่าในขณะที่พี่ตุ้ยเป็น AF มีเรื่องต่อยจนกระทั่งจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล?
ตุ้ย : ยังไม่ถึงกับขนาดขี้นศาล แต่ว่าเป็นช่วงๆใหม่ๆที่พึ่งเข้าแวดวง ลืมไปว่าบางสิ่งบางอย่าง อะไรบางอย่างทำไม่ได้นะ ในสมัยที่คุณเป็นที่รู้จักแล้ว
มันกำเนิดอะไรขึ้น?
ตุ้ย : เป็นอยู่ในผับ ในร้านเหล้าตนเอง ในร้านค้ามันมีปัญหากับรุ่นพี่พวกเรา เขาก็ห้ามกันไปๆมาๆแล้วไหลมาถึงผม ผมก็เอาซะเลย เข้ามานึกออกหมัดเดียวเป็นหมัดแรก เป็นตุ้ยAF แล้วเขาจะไปฟ้องร้อง แม้กระนั้นโชคดีตัวเขาก็ไม่ถูก รุ่นพี่ที่พาเขามาก็ไม่ถูก เขาก็เลยเตือนว่าให้มันจบๆไปเลยดีมากยิ่งกว่า ก็เป็นโชคดีของพวกเราไปมิได้เป็นความเป็นอะไร แม้กระนั้นความเจ้าอารมณ์ของพวกเราที่มันไม่สมควร ตอนนี้เลยไขปัญหาด้วยการไม่ออกไปดื่มไหนแล้ว อยู่บ้านดียิ่งกว่า
ประเด็นนี้แม่ทราบไหม?
แม่น้อย : ช่วงแรกไม่เคยรู้ มารู้คราวหน้าจากพวกพ้องเขานั่นแหละ
มีความเห็นว่าเรื่องเจ้าชู้เป็นชั้น1 เลย จริงไหมขาม่าม้า?
แม่น้อย : เยอะแยะจ้ะ แต่ว่าก็ไม่รู้เรื่องอย่างไร แบบไหนนะ
เขากล่าวว่าเป็นแบดบอยจริงไหม?
แม่น้อย : เขาลือกัน แม้กระนั้นจริงๆมันไม่ค่อยมีมาให้มองเห็นนะ
ตุ้ย : มันเป็นตอนๆเวลา ก่อนเป็นตุ้ยAF ผมร้องเวลากลางคืนมาก่อน แล้วผมมิได้ร้องร้านเหล้าปกติ ผมร้องค็อกเทลเลาจน์ ก็จะมีแม่น้องนางมากมายไปหมด
ตุ้ยเคยคุยมากที่สุด พร้อมกี่คน?
ตุ้ย : ก็มีสไลด์โทรศัพท์เคลื่อนที่วันนี้พวกเราไปส่งผู้ใดดี ตอนเดือดๆนะ ก็ 6-7 คนไม่จำนวนไม่ใช่น้อยอดีตสมัยพวกเราร้องค่ำคืน แล้วพวกเรายังใหม่ๆอยู่ พึ่งจะ 20 แล้วผู้หญิงงามๆเยอะไปหมด
มองเห็นกล่าวว่าทุกเมื่อเชื่อวันไม่มีขาด?
ตุ้ย : เป็นผมไม่เคยไม่มีแฟนนะ แต่ว่ามันมิได้ถึงกับขนาดว่าเจ้าชู้มาทีเดียวไม่น้อยเลยทีเดียวมันเป็นตอนช่วงเวลา ตอนขับร้องยามค่ำคืนมันเป็นอะไรที่ห้ามมิได้เลย
ความเจ้าชู้ทำพี่ตุ้ยปางตายมาแล้ว?
ตุ้ย : อันนี้ท่องเที่ยวละ พวกเราก็จีบอะไร ได้คอนแท็กมาสักคนนึง แล้วพวกเราก็ตามเรื่อง พวกเราก็ได้ไปห้องเขา ทำกิจกรรมเสร็จก็มีเสียงเคาะประตู สตรีก็วิ่งไปดูที่ตาแมวแล้ววิ่งเข้าห้องอาบน้ำ พวกเราก็อยู่ในชุดกางเกงยีนตัวเดียวไม่มีเสื้อ ต่อนี้ไปเขาไขทางเข้ามา พวกเราก็ตั้งรับแล้ว เขากล่าวว่าแกรีบออกไปก่อนเราทนไม่ได้ ผมก็คว้าของออกมาเกือบจะไม่ทัน พอเพียงมาเล่าให้แม่ฟัง ยินดีในลูกตนเองไหม
แม่น้อย : ก็สม
ตุ้ย : อันนี้พวกเรามารู้คราวหน้า ว่าหญิงเพียรพยายามเลิกกับเพศชายคนนี้อยู่แล้ว แล้วเพศชายคนนี้เขาก็ใช้สิทธิ์ที่เขายังมีกุญแจอยู่ ก็ยังไม่ขาด แม่น้องนางอาจรู้สึกว่าวันนี้เพศชายคนนี้อาจไม่มามั้งก็เลยพาผมเข้าไป
ต่อจากนั้นระวังมากยิ่งขึ้นไหม?
ตุ้ย : ไม่ไปห้องคนใดกันแน่อีกเลย กลัวไปเลย
เขาพูดว่าคุณเป็นคนเฒ่าหัวงูมากมายเลย คุณสารภาพไหม?
ตุ้ย : มันเป็นจังหวะ ตอนๆตอนนี้ไม่มีแล้วนะ ผมไม่ล็อกแล็ก
มนุษย์เรามันชอบมีอดีตกาลที่ปวด ก็เลยทำให้พวกเรามีปัจจุบันนี้ที่เป็นการแก้เผ็ด หมายความว่าคุณเคยอกหัก กระทั่งทำให้มีความคิดว่าความเจ้าชู้มันตอบปัญหาหรือไม่?
ตุ้ย : ก็ด้วยนะครับ ถ้าหากจะเอาแบบทีแรกในชีวิต ก็คงเป็นรักแรกพบของผม ก็โดนสวมเขา พวกเราก็คบกับคนนี้ มีการไปรับไปส่งอยู่เสมอเวลาในยุคเรียน มันราวกับซีนในละครเลย แฟนพวกเราก็ลงรถพวกเราไปพบเพศชายคนนึง มันมีซีนคลำหัว พวกเราก็แบบคนนี้ผู้ใดวะ แฟนพวกเราก็กล่าวว่าน้า ผมก็ฉงนใจกลับไปอยู่บ้าน กลับมาแม่ก็จะมองเห็นของกินลูกชายตนเอง รับประทานมิได้ นอนไม่หลับ แม่ก็เลยมาถามเป็นอะไร ผมก็เลยบอกไปว่าที่ไปส่งที่ตรงนี้มันบ้านของคนไหนกันแน่ เขาก็เลยบอกไป สักครู่เราไปเป็นเพื่อน เพื่อพาไปดูว่าเรื่องราวคนนี้คืออะไร เขาก็ยืนเฝ้าจักรยานยนต์ผม
แล้วผมก็เดินขึ้นไปจุดที่ผมไปส่ง ก็จะมองเห็นบานเกร็ด ด้านในมีผ้าม่านลอยละลิ่วไหว ซีนที่ผมมองเห็นผ่านบานเกร็ดไปเป็น แฟนพวกเรานอนอยู่กับน้าคนนั้นในผ้าที่มีไว้ห่ม พวกเราก็แค่เคาะประตูให้เขาออกมา เขาก็ออกมาทั้งสองผมก็กล่าวว่านี่น้าเอ็งหรอ แล้วผมก็พาตรงข้ามสองคนแม่ลูก ซึ่งมารู้คราวหน้าจากเพื่อนพ้องของสตรีเขามาบอก ก็ดีวันนั้นที่มิได้มีปัญหาอะไรกัน ด้วยเหตุว่าเพศชายคนนั้นยืนไขว้หลังถือมีดอยู่
ระหว่างขับรถเครื่องหลับไปร้องไห้ไหม
แม่น้อย : ร้องไห้ด้วย ดุด้วย ว่าเป็นอย่างไรละขณะที่แม่บอก แม่เตือน เป็นในสถานที่เรียนเขาจะเอาตุ้ยเป็นแฟน แต่ว่าภายนอกไม่รู้เรื่องว่าคนนี้เลี้ยงดูอยู่หรือไม่ พวกเราไม่รู้จัก
แม่ไม่ปลอบโยนลูกชายหน่อยหรอ?
แม่น้อย : ปลอบโยน เมื่อใดก็ตามตีกัน ก็จะมานั่งคลำหัวกัน อันนี้มันเป็นเรื่องมันแล้วไปแล้ว พวกเราเริ่มต้นใหม่ ทุกๆอย่างจะบอกคำนี้กัน แล้วตุ้ยจะเบาๆดียิ่งขึ้น
แล้วการอกหักคราวไหนที่ทำให้เกือบจะตัดแม่ตัดลูกกัน?
ตุ้ย : อันนี้เป็นตุ้ยAF ละนะ พอเพียงเข้าแวดวงพวกเราก็จะเห่อหน่อย แม้กระนั้นไม่ถึงขั้นลืมตัว ก็มีหญิงเข้ามามากมาย แล้วพวกเราก็คบกับหญิงคนนี้เกิดเรื่อง เป็นราวแม่รับทราบ ซึ่งมิได้เห็นค่าความรักที่เขาให้กับพวกเรา พวกเราก็จะไปเรื่อยเปื่อย พูดปด เจ้าชู้แบบทึ่มๆบ้าง แล้วพวกเราก็รู้สึกว่าเขาอาจจะจับมิได้ ท้ายที่สุดเขามาหักดิบบอกยกเลิกเลย จะตายพี่ เป็นคนดื่มหนักๆโดยประมาณ 6-7 เดือน เสียรูป 3-4 ปีที่ไม่ลืมเลือนเขา เพียงพอเลิกกับเขา ผมไปพบสตรีตั้งเท่าใดก็ไม่ใช่แบบเขา มันก็เลยเปลี่ยนไปเป็นว่ายิ่งฝังใจ แม่น้อยมองเห็นผมเศร้าใจ ร้องไห้ ตอนแรกๆก็ปลอบประโลมอยู่หรอก
แม่น้อย : เคยแย่งโทรศัพท์ไปคุยกับหญิงคนนั้นด้วย แต่ว่าเขาไม่เอายังไง
ตุ้ย : เป็นพากเพียรขอคืนดีแทนผม
แม่น้อย : บอกกับลูกว่าเอ็งอยากได้เขานักใช่ไหม เอ็งก็ไปอยู่กับเขาเลย ออกไปจากบ้านแม่เลย คิดซะว่าไม่มีบ้าน คิดซะว่าไม่มีแม่ อันนั้นเป็นไล่ความเป็นจริงเลยค่ะ
ตัดแม่ ตัดลูกไปเลย?
แม่น้อย : ตัดแม่ตัดลูกไปเลย แม่อยู่ได้ เขาก็หันกลับมากมายอดแม่ รวมทั้งกอดคอกันร้องไห้ ก็เบาๆดียิ่งขึ้นตั้งแต่วันนั้นมา รู้สึกโทรศัพท์ก็คุยลดลง ทื่อเขาลดน้อยลง
พี่ตุ้ยคิดอย่างไรในขณะที่แม่บอกตัดแม่ตัดลูก?
ตุ้ย : มิได้นะ นี่แม่นะ ก็เสมือนเรียกสติกลับมาล่ะกับประโยคเด็ดๆอย่างงี้ จากขาดสติมาตั้งนับเป็นเวลาหลายเดือน นับเป็นเวลาหลายปี ก็นับว่าเป็นบทเรียนที่ดี ที่ทำให้ผมหยุด แล้วไม่รังควานคนไหนอย่างงี้อีก ในช่วงเวลานั้นเป็น AF แล้วด้วย ร้องไห้ปฏิบัติงานมิได้
แม่หวงลูกชายไหม?
แม่น้อย : ไม่หวงนะ แม่ว่าแม่ห่วงเขามากยิ่งกว่า หากพบคนดีหรือเพศหญิงดี แม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนอยู่กับสตรี สักครู่ไม่นาน แม่ก็ตายแล้ว
ในขณะนี้ลูกชายแม่ไม่มีคู่ไหม?
แม่น้อย : จะว่าไม่มีคู่ครองก็ไม่เชิง แต่ว่าไม่มีเป็นตัวเป็นตน
ตุ้ย : ก็มีพี่ จำนวนมากผมไม่คบคนภายในแวดวงเบิกบานร่วมกัน เพราะว่าผมเป็นคนใจคอคับแคบ ตอนที่อยู่ในแวดวงสนุกสนานมาปีนี้ปีที่15 ก็มิได้ว่าง มันมี มันเป็นตอนเวลาการดูจิตใจกัน ซึ่งถ้าหากมันจบลงผมค่อยมาบอกทีเดียวดีมากกว่า ไม่ต้องการที่จะอยากบอกหลายรอบในเวลานี้ผมคบน้องเอ อยู่นะ ครู่หนึ่งเลิกอีกละ เนื่องจากว่าอายุมันมากเพิ่มขึ้น ความนึกคิดมันก็แปรไป ยุควัยรุ่นพวกเราก็จะคิดต้องการสมรส ต้องการมีลูก พอเพียงในในขณะนี้มันแปลงเป็นว่าไม่ต้องการสมรส ไม่ต้องการที่จะอยากมีลูก ถ้าหากสมมุติจำเป็นต้องจบจบกับเพศหญิงที่พวกเราคบอยู่เนี่ย มิได้เป็นการไม่ให้เกียรติหญิงนะพี่ หากจำต้องจบจบก็อาจจะต้องไปพบบิดา แม่ เขาล่ะ
เพราะเหตุใดถึงมีความรู้สึกว่าจะไม่มีลูก?
ตุ้ย : ผมเพียงแค่มีความรู้สึกว่าหากลูกออกมา ผมมิได้คิดจะพึ่งลูก ไม่มีความจำเป็นต้องมีก็ได้ แล้วแม่กับป๊าที่บ้านเขามิได้ซีเรียส เขาก็ไปอุ้มเด็ก เล่นกับเด็กในหมู่บ้านแทนก็มิได้ขาดอะไร
แม่ไม่ซีเรียสเนอะหากไม่มีหลาน?
แม่น้อย : ไม่ต้องการมีแล้วจ้ะ แก่แล้ว เลี้ยงไม่ไหว
ม่าม้าเป็นห่วงอะไรพี่ตุ้ยบ้าง?
แม่น้อย : ชั่วโมงนี้เพียงแค่จำเป็นต้องรอเตือนสติกันว่าเศรษฐกิจแบบนี้จำเป็นต้องรับประทานเป็น ใช้เป็นนะ พวกเราจะได้ไม่ต้องลำบาก แล้วอีกอย่างนึงอย่าดื่มให้มันมากมายนัก
พี่ตุ้ยต้องการบอกอะไรแม่บ้าง?
ตุ้ย : เวลานี้พอใจ ผมจัดว่าโชคดีที่คุณพ่อและก็คุณแม่ผมไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีโรคประจำตัวอะไรก็แล้วแต่เลย ซึ่งต้องการให้เขาดูแลตนเองอย่างงี้ล่ะ ขั้นต่ำ พวกเราก็มีกัน