ถกลั่น ‘เด็ก 15 เปลื้องผ้าตลอดร่าง’ รูปฝรั่งยุคราชการ4 เหมาะสม-ไม่เหมาะสม ร่วมนำเสนอนิทรรศการภาพ BACC
กำลังเป็นหลักสำคัญวิจารณ์อย่างมากมายในโลกอินเตอร์เน็ตว่าสมควรไหมกับการนำรูปเปลือยตลอดตัวของเด็กผู้หญิงคนไทยอายุ 15 ปีบันทึกภาพเมื่อพุทธศักราช 2405 ในยุคปลายรัชกาลที่ 4 โดยปีแยร์ รอคอยซีเยร์ (Pierre Rossier) มาแสดงในนิทรรศการภาพซึ่งนำเสนอที่หอพักศิลปวัฒนธรรมที่จ.กรุงเทพฯ หรือ BACC
โดยคุณครูสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ โพสต์ว่า พี่ป้อม(นิธิความบันเทิง ยอแสงรัตน์) ส่งภาพนี้ที่กำลังจัดโชว์อยู่ที่กรุงเทวดา มาให้ดูแล้วถามคำถามว่าผมคิดยังไงระหว่าง child pornography กับ exotic ภาพนี้บอกว่าถ่ายปีพุทธศักราช2405 ตรงกับปลายรัชกาลที่ 4 สำหรับผมมีความรู้สึกว่าภาพนี้สะท้อนมุมมองของพวกฝรั่งในเรื่อง downgrade คนด้วย พวกฝรั่งตะวันตกจะมั่นใจว่าตนมีอารยะตอนที่ผู้อื่นจะไม่มีอารยะ การแสดงออกถึงการไม่มีอารยะอย่างหนึ่ง
ก็คือ naked แก้ผ้า ผมมีความรู้สึกว่าเวลานี้ฝรั่งคนถ่ายต้องการที่จะให้มองเห็นเรื่อง exotic เป็นหลัก แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันมันก็สะท้อนเรื่อง downgrade คนภายในชาติบ้านเมืองพวกเรา ดังจะมองเห็นได้ว่าต่อจากนั้นอีกไม่นาน รัดยาร์ด คิปลิ่ง ก็ได้เขียนบทกลอนที่ชื่อ The White Man’ s Burden
โน่นเป็นคนภายในประเทศพวกเราแถวอุษาคเนย์ ยังไม่มีอารยะเสมือนคนเปลือย จำต้องพึ่งพิงฝรั่งตะวันตกที่จำนองเครื่องแต่งตัวมาสวมให้ เครื่องแต่งตัวก็คืออารยะนั่นเอง ส่วนภาพนี้จะเป็นหัวข้อchild pornographyไหม ก็มีคนตอบแล้วว่า”ไม่” เพราะเหตุว่าในขณะนั้นยังไม่มีข้อบังคับนี้นะครับ
ในตอนที่ นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ สมัยก่อนเอกอัครราชทูตไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Russ Charnsongkram” กล่าวว่านับเป็นเวลาหลายวันก่อนได้ได้โอกาสไปดูนิทรรศการศิลป์ที่ BACC โดยในส่วนที่จัดโชว์รูปเก่าแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนประเทศไทยในอดีตกาลนั้น มีภาพหนึ่งที่ก่อกวนจิตใจของ ซึ่งเป็นภาพราวร้อยปีมาแล้วของเด็กหญิงคนประเทศไทยอายุ 15 ที่เปลือยอีกทั้งเรือนกาย สีหน้าท่าทางแสดงความสับสนไม่ชอบใจแล้วก็ระแวงรวมทั้งหวาดกลัวผสมปนเปกันอยู่ซึ่งถ่ายโดยคนถ่ายภาพฝรั่งคนหนึ่ง
“ที่มันก่อกวนจิตใจเนื่องจากผมมีความคิดเห็นว่าภาพนี้คงจะเข้าเกณฑ์ภาพอนาจารของเด็กในความหมายเดี๋ยวนี้รวมทั้งมีความผิดโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ถูกเอามาแสดงต่อสาธารณะชนคนธรรมดาทั่วไป โดยทางผู้จัดมิได้มองเห็นถึงเรื่องผิดปกติหรือความประณีตบรรจงสำหรับเพื่อการแสดงภาพนี้ ที่มิได้มีบริบทอะไรที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของคนประเทศไทยในสมัยนั้นเหมือนกันกับภาพอื่นๆเลย
ที่มีบางบุคคลเห็นว่าเนื่องจากฝรั่งเป็นตากล้อง มันก็น่าโอเค ฝรั่งก็ถูกใจถ่ายรูปอย่างนี้ เอามาจัดโชว์ก็ไม่แปลกอะไร ในขณะที่มองเห็นได้ว่าภาพนั้นจัดเป็นการเอารัดเอาเปรียบทางเพศเยาวชนอย่างหนึ่ง (ซึ่งหลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จพวกเราก็เป็นไปไม่ได้ทราบว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นอีกด้วย) มีคนพูดว่าการแสดงภาพนี้ไม่ผิด เนื่องจากว่าในสมัยนั้นยังไม่มีข้อบังคับบังคับในหัวข้อนี้ ซึ่งผมมีความคิดว่ามันไม่ถูกหัวข้อ ส่วนตัวผมมั่นใจว่าหากแม้ในสมัยนั้นยังไม่มีข้อบังคับบังคับใช้ แม้กระนั้นสิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่แม้กระทั้งสังคมในสมัยนั้นสารภาพว่าถูกดีเลิศด้วยเหมือนกัน
แล้วก็ประเด็นหลักมันเป็น ถึงแม้เวลานี้ยังไม่มีข้อบังคับบังคับ แต่ว่าจะเช่นไรนี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูก แล้วก็ยิ่งไม่ใช่ในปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่ควรเกื้อหนุนให้เอามาเผยแพร่ แบบไม่ต้องคิดอะไรบ้างที่อยู่ในที่ชุมชนหรือ? มันโอเค เพียงแต่เพราะว่ามันเป็นภาพเก่าในอดีตกาลที่ฝรั่งแอบมาถ่ายไว้ ?” นายรัศมิ์กำหนด
ส่วน “นิธิความบันเทิง ยอแสงรัตน์” สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊กระบุในตอนหนึ่งว่า ขอบันทึกข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกของตนว่า
1.ราวกับจะนึกออกลางๆว่าเมื่อนิทรรศการและก็หนังสือ Unseen Siam เผยแพร่เป็นครั้งแรก มีผู้ตั้งปัญหาว่าเด็กสาวในรูปภาพหน้างอมากมายเสมือนถูกบังคับ คุณบางทีอาจเป็นขี้ข้าข้าทาสหรือนางโลมที่ถูกบังคับให้ถ่ายรูปเปลือยหรือเปล่า?
ส่วนตัวเราภาพนี้มีความน่าดึงดูดใจทางประวัติศาสตร์และก็ศิลป์หลายประการ รวมทั้งทัศนคติเกี่ยวกับเรื่อง “เปลือย” “เซ็กซ์” หรือความเป็นหญิงกับความเป็นผู้ชายในทรรศนะชาวตะวันออกและก็คนพื้นบ้านในที่ต่างๆทั้งโลกก่อนสมัยวัฒนธรรมวิกตอเรียนของอังกฤษ (ราวพุทธศักราช 2373-2444 / คริสต์ศักราช 1830-1901) จะเจริญก้าวหน้าจนถึงมีผลกระทบครอบครองวัฒนธรรมอื่นอย่างมากมาย
2.อดีตไม่มีข้อบังคับคุ้มครองป้องกันสิทธิมนุษยชนใดๆก็ตามการล่วงละเมิดมนุษย์อย่างหนักทั้งยังทางร่างกายแล้วก็ทางจิตใจราวกับคือเรื่องธรรดาสำหรับผู้มีอิทธิพลมากยิ่งกว่า และก็คนส่วนมากคงจะมองไม่เห็นเกิดเรื่องไม่ถูก
3.เดี๋ยวนี้สังคมมนุษย์ทั่วทั้งโลกมีความรู้และความเข้าใจและก็ตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสิทธิสตรีรวมทั้งเด็กต่างๆนานา หากแม้คงจะไม่สามารถที่จะนำข้อบังคับสมัยใหม่ไปวินิจฉัยว่าภาพในอดีตกาลแบบนั้นแบบนี้ไม่ถูก ไม่เหมาะสม ไม่สมควรเผยแพร่ พวกเราก็รู้เรื่องข้างที่มีความรู้สึกว่า ภาพแบบนี้ไม่เหมาะสมในขณะนี้เพราะเหตุว่าคนภายในภาพยังเป็นเด็ก และก็มั่นใจว่าถ้าเกิดมีนิทรรศการภาพแบบนี้ในต่างแดน คงจะมีข้างเคร่งหลักสิทธิมนุษยชนหรือสิทธิสตรีรวมทั้งเด็กต่างๆออกมาตั้งปัญหาแล้วโต้แย้งกับข้างที่คิดว่าเป็นประวัติศาสตร์แล้วก็ศิลป์อย่างน่าดึงดูด ซึ่งเกิดเรื่องช่วยพอกพูนปัญญาวิชาความรู้
4.ในด้านส่วนตัว พวกเราไม่ฟันธงดำขาวความนึกคิดของคนไหนกันแน่ แต่ว่าไม่คิดว่าภาพในรูปแบบนี้ควรจะเป็นภาพ “ต้องห้าม” หรือ “ปกปิด” เพราะเหตุว่ามองดูในทางค่าทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน ชนิดเดียวกันกับภาพชั่วร้ายในเรื่องราว 6 เดือนตุลาคม 2519 หรือเรื่องเขมรแดงฆ่าล้างเชื้อสายชาวเขมรระหว่างปีพ.ศ .2518-2522 /คริสต์ศักราช 1975-1979) หรือเรื่องฮอโลคอสต์ที่พรรคที่นาซีเยอรมันฆ่าล้างเชื้อสายชาวยิวระหว่างปีพุทธศักราช 2476-2488 /คริสต์ศักราช1941-1945)
5.แต่ว่าเวลาเดียวกัน ก็มีความรู้สึกว่าเมื่อถึงยุคนี้ซึ่งผู้คนมีความรู้และมีความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสิทธิสตรีและก็เด็กต่างๆประเด็นสำคัญที่ควรต้องตรึกตรองเกี่ยวกับภาพแบบงี้ น่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่จัดวางภาพว่ายังไงก็เลยสมควร (ที่จริงไม่วเซียมเป็นที่ที่สมควรแต่ว่าบางทีอาจควรจะมีคำอธิบายอื่นๆอีกหรือเปล่า ฯลฯ) หรือควรจะใช้ภาพนี้ต่อยอดสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องราวต่างๆกับผู้คนในสังคมยังไงได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่ภาพเพื่อความสนุกสนานหรือความหนำใจหรือแม้กระทั้งมุงมองให้เกิดความรู้สึกทางเพศเสียใจที่จะตอบสนองความรู้สึกเชิงจริยธรรมแสนดีเลิศของตนเองในระยะสั้น
6.นอกจากนี้ น่าพิจารณาว่า หากคุณในรูปภาพมาจากครอบครัวที่เรียกกันว่า “มีชาติ มีตระเราล” คุณอาจไม่ต้องเป็นดารานางแบบเปลือยบูดบึ้งแบบนี้ แล้วก็คุณอาจมีช่องทางเป็นบรรพบุรุษของเราที่ (บางทีอาจ) ทำให้เราจะต้องแผดเสียงต่อต้านว่า “ไม่เอาๆๆๆภาพนี้หมิ่นเกียรติยศยายทวดย่าทวดของพวกเรา หมิ่นวงศ์สกุลพวกเรา ควรเก็บหรือทำลายรูปนี้เสียเหอะ” ฯลฯ
ส่วนตัวเรา ทุกเรื่องในโลกไม่ใช่สีดำขาว รวมทั้งเว้นเสียแต่ข้อเท็จจริงที่เป็น truth ซึ่งไม่บางทีอาจบิดเบือนชนิดพวกเรามองเห็นตะวันขึ้นจากด้านหนึ่งแล้วตกลับฟ้าอีกด้านหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้าม อื่นๆอีกมากมาย กลุ่มนี้ ข้อเท็จจริงอื่นอาจมีได้หลายชุด เป็นต้นว่าถุงข้าวสารห้ากิโลหนักมากมายเป็นความจริงสำหรับคุณยายอายุเก้าสิบปี แม้กระนั้นข้อเท็จจริงสำหรับหลานชายอายุยี่สิบห้าปีเป็นเบามาก หรือเรื่อง LBGTQs ซึ่งเคยคือเรื่องธรรดาในสังคมมนุษย์มานานแล้วก่อนที่จะมีคนมั่นใจว่าแตกต่างจากปกติและก็กำลังจะกลับสู่ความศรัทธาธรรมดาว่าคือเรื่องธรรดา ฯลฯ
เมื่อจำต้องต่อสู้ทางความนึกคิดใดๆก็ตามกับคนร่วมกันเวลาที่เขามีสติสัมปชัญญะ มิได้ถือปืนมาจ่อหัวพวกเราหรือเปล่าได้กำลังน้ำลายฟูมปากต้องการดุหยาบๆระบายอารมณ์ การแลกเปลี่ยนความเห็นด้วยวิธีการอย่างมีเหตุมีผลมีเหตุผลก็เลยบันเทิงใจกว่าแย้งด้วยมาตรฐานจริยธรรมส่วนตัววินิจฉัยถูกไม่ถูกดีชั่วช้าสารเลว พวกเราทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องคิดเช่นเดียวกันแม้กระนั้นอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาตีกันในเรื่องจุกจิกจุ๊กจิ๊ก เพราะว่าเห็นด้วยว่า เอ้อ คิดคนละอย่าง ทำอะไรด้วยกันได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็แยกกันทำ ไม่ต้องบังคับแบบเผด็จการว่าทุกคนจะต้องคิดเสมือนฉันสิ ช่วยเหลือฉันสิ คิดไม่ราวกับฉันเป็นชั่วโคตร จะต้องด่าทอๆๆๆๆๆซึ่งความจริงคงจะมีไม่กี่เรื่องให้พวกเราด่าว่าผู้อื่นได้ว่าหยาบช้า โดยพื้นฐานที่สุดเป็น รังควานบุคคลอื่นหรือทำให้คนอื่นๆตกระกำลำบากเป็นทุกข์หรือกำเนิดการสิ้นไปต่างๆทั้งยังทางร่างกายคำพูดหัวใจ มากมายบ้างน้อยบ้าง
ทั้งผองนั้นเกิดเรื่องรากฐานมากมายๆๆๆๆๆๆแต่ว่าดูเหมือนจะยังคือปัญหาในสังคมวันนี้ไหมนะ?
Share post:
ถกลั่น ‘เด็ก 15 เปลื้องผ้าตลอดร่าง’ รูปฝรั่งยุคราชการ4 เหมาะสม-ไม่เหมาะสม ร่วมนำเสนอนิทรรศการภาพ BACC
กำลังเป็นหลักสำคัญวิจารณ์อย่างมากมายในโลกอินเตอร์เน็ตว่าสมควรไหมกับการนำรูปเปลือยตลอดตัวของเด็กผู้หญิงคนไทยอายุ 15 ปีบันทึกภาพเมื่อพุทธศักราช 2405 ในยุคปลายรัชกาลที่ 4 โดยปีแยร์ รอคอยซีเยร์ (Pierre Rossier) มาแสดงในนิทรรศการภาพซึ่งนำเสนอที่หอพักศิลปวัฒนธรรมที่จ.กรุงเทพฯ หรือ BACC
โดยคุณครูสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ โพสต์ว่า พี่ป้อม(นิธิความบันเทิง ยอแสงรัตน์) ส่งภาพนี้ที่กำลังจัดโชว์อยู่ที่กรุงเทวดา มาให้ดูแล้วถามคำถามว่าผมคิดยังไงระหว่าง child pornography กับ exotic ภาพนี้บอกว่าถ่ายปีพุทธศักราช2405 ตรงกับปลายรัชกาลที่ 4 สำหรับผมมีความรู้สึกว่าภาพนี้สะท้อนมุมมองของพวกฝรั่งในเรื่อง downgrade คนด้วย พวกฝรั่งตะวันตกจะมั่นใจว่าตนมีอารยะตอนที่ผู้อื่นจะไม่มีอารยะ การแสดงออกถึงการไม่มีอารยะอย่างหนึ่ง
ก็คือ naked แก้ผ้า ผมมีความรู้สึกว่าเวลานี้ฝรั่งคนถ่ายต้องการที่จะให้มองเห็นเรื่อง exotic เป็นหลัก แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันมันก็สะท้อนเรื่อง downgrade คนภายในชาติบ้านเมืองพวกเรา ดังจะมองเห็นได้ว่าต่อจากนั้นอีกไม่นาน รัดยาร์ด คิปลิ่ง ก็ได้เขียนบทกลอนที่ชื่อ The White Man’ s Burden
โน่นเป็นคนภายในประเทศพวกเราแถวอุษาคเนย์ ยังไม่มีอารยะเสมือนคนเปลือย จำต้องพึ่งพิงฝรั่งตะวันตกที่จำนองเครื่องแต่งตัวมาสวมให้ เครื่องแต่งตัวก็คืออารยะนั่นเอง ส่วนภาพนี้จะเป็นหัวข้อchild pornographyไหม ก็มีคนตอบแล้วว่า”ไม่” เพราะเหตุว่าในขณะนั้นยังไม่มีข้อบังคับนี้นะครับ
ในตอนที่ นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ สมัยก่อนเอกอัครราชทูตไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Russ Charnsongkram” กล่าวว่านับเป็นเวลาหลายวันก่อนได้ได้โอกาสไปดูนิทรรศการศิลป์ที่ BACC โดยในส่วนที่จัดโชว์รูปเก่าแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนประเทศไทยในอดีตกาลนั้น มีภาพหนึ่งที่ก่อกวนจิตใจของ ซึ่งเป็นภาพราวร้อยปีมาแล้วของเด็กหญิงคนประเทศไทยอายุ 15 ที่เปลือยอีกทั้งเรือนกาย สีหน้าท่าทางแสดงความสับสนไม่ชอบใจแล้วก็ระแวงรวมทั้งหวาดกลัวผสมปนเปกันอยู่ซึ่งถ่ายโดยคนถ่ายภาพฝรั่งคนหนึ่ง
“ที่มันก่อกวนจิตใจเนื่องจากผมมีความคิดเห็นว่าภาพนี้คงจะเข้าเกณฑ์ภาพอนาจารของเด็กในความหมายเดี๋ยวนี้รวมทั้งมีความผิดโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ถูกเอามาแสดงต่อสาธารณะชนคนธรรมดาทั่วไป โดยทางผู้จัดมิได้มองเห็นถึงเรื่องผิดปกติหรือความประณีตบรรจงสำหรับเพื่อการแสดงภาพนี้ ที่มิได้มีบริบทอะไรที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของคนประเทศไทยในสมัยนั้นเหมือนกันกับภาพอื่นๆเลย
ที่มีบางบุคคลเห็นว่าเนื่องจากฝรั่งเป็นตากล้อง มันก็น่าโอเค ฝรั่งก็ถูกใจถ่ายรูปอย่างนี้ เอามาจัดโชว์ก็ไม่แปลกอะไร ในขณะที่มองเห็นได้ว่าภาพนั้นจัดเป็นการเอารัดเอาเปรียบทางเพศเยาวชนอย่างหนึ่ง (ซึ่งหลังจากที่ถ่ายภาพเสร็จพวกเราก็เป็นไปไม่ได้ทราบว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นอีกด้วย) มีคนพูดว่าการแสดงภาพนี้ไม่ผิด เนื่องจากว่าในสมัยนั้นยังไม่มีข้อบังคับบังคับในหัวข้อนี้ ซึ่งผมมีความคิดว่ามันไม่ถูกหัวข้อ ส่วนตัวผมมั่นใจว่าหากแม้ในสมัยนั้นยังไม่มีข้อบังคับบังคับใช้ แม้กระนั้นสิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่แม้กระทั้งสังคมในสมัยนั้นสารภาพว่าถูกดีเลิศด้วยเหมือนกัน
แล้วก็ประเด็นหลักมันเป็น ถึงแม้เวลานี้ยังไม่มีข้อบังคับบังคับ แต่ว่าจะเช่นไรนี่ไม่ใช่สิ่งที่ถูก แล้วก็ยิ่งไม่ใช่ในปัจจุบัน นี่เป็นสิ่งที่ควรเกื้อหนุนให้เอามาเผยแพร่ แบบไม่ต้องคิดอะไรบ้างที่อยู่ในที่ชุมชนหรือ? มันโอเค เพียงแต่เพราะว่ามันเป็นภาพเก่าในอดีตกาลที่ฝรั่งแอบมาถ่ายไว้ ?” นายรัศมิ์กำหนด
ส่วน “นิธิความบันเทิง ยอแสงรัตน์” สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊กระบุในตอนหนึ่งว่า ขอบันทึกข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกของตนว่า
1.ราวกับจะนึกออกลางๆว่าเมื่อนิทรรศการและก็หนังสือ Unseen Siam เผยแพร่เป็นครั้งแรก มีผู้ตั้งปัญหาว่าเด็กสาวในรูปภาพหน้างอมากมายเสมือนถูกบังคับ คุณบางทีอาจเป็นขี้ข้าข้าทาสหรือนางโลมที่ถูกบังคับให้ถ่ายรูปเปลือยหรือเปล่า?
ส่วนตัวเราภาพนี้มีความน่าดึงดูดใจทางประวัติศาสตร์และก็ศิลป์หลายประการ รวมทั้งทัศนคติเกี่ยวกับเรื่อง “เปลือย” “เซ็กซ์” หรือความเป็นหญิงกับความเป็นผู้ชายในทรรศนะชาวตะวันออกและก็คนพื้นบ้านในที่ต่างๆทั้งโลกก่อนสมัยวัฒนธรรมวิกตอเรียนของอังกฤษ (ราวพุทธศักราช 2373-2444 / คริสต์ศักราช 1830-1901) จะเจริญก้าวหน้าจนถึงมีผลกระทบครอบครองวัฒนธรรมอื่นอย่างมากมาย
2.อดีตไม่มีข้อบังคับคุ้มครองป้องกันสิทธิมนุษยชนใดๆก็ตามการล่วงละเมิดมนุษย์อย่างหนักทั้งยังทางร่างกายแล้วก็ทางจิตใจราวกับคือเรื่องธรรดาสำหรับผู้มีอิทธิพลมากยิ่งกว่า และก็คนส่วนมากคงจะมองไม่เห็นเกิดเรื่องไม่ถูก
3.เดี๋ยวนี้สังคมมนุษย์ทั่วทั้งโลกมีความรู้และความเข้าใจและก็ตื่นตัวเรื่องสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสิทธิสตรีรวมทั้งเด็กต่างๆนานา หากแม้คงจะไม่สามารถที่จะนำข้อบังคับสมัยใหม่ไปวินิจฉัยว่าภาพในอดีตกาลแบบนั้นแบบนี้ไม่ถูก ไม่เหมาะสม ไม่สมควรเผยแพร่ พวกเราก็รู้เรื่องข้างที่มีความรู้สึกว่า ภาพแบบนี้ไม่เหมาะสมในขณะนี้เพราะเหตุว่าคนภายในภาพยังเป็นเด็ก และก็มั่นใจว่าถ้าเกิดมีนิทรรศการภาพแบบนี้ในต่างแดน คงจะมีข้างเคร่งหลักสิทธิมนุษยชนหรือสิทธิสตรีรวมทั้งเด็กต่างๆออกมาตั้งปัญหาแล้วโต้แย้งกับข้างที่คิดว่าเป็นประวัติศาสตร์แล้วก็ศิลป์อย่างน่าดึงดูด ซึ่งเกิดเรื่องช่วยพอกพูนปัญญาวิชาความรู้
4.ในด้านส่วนตัว พวกเราไม่ฟันธงดำขาวความนึกคิดของคนไหนกันแน่ แต่ว่าไม่คิดว่าภาพในรูปแบบนี้ควรจะเป็นภาพ “ต้องห้าม” หรือ “ปกปิด” เพราะเหตุว่ามองดูในทางค่าทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน ชนิดเดียวกันกับภาพชั่วร้ายในเรื่องราว 6 เดือนตุลาคม 2519 หรือเรื่องเขมรแดงฆ่าล้างเชื้อสายชาวเขมรระหว่างปีพ.ศ .2518-2522 /คริสต์ศักราช 1975-1979) หรือเรื่องฮอโลคอสต์ที่พรรคที่นาซีเยอรมันฆ่าล้างเชื้อสายชาวยิวระหว่างปีพุทธศักราช 2476-2488 /คริสต์ศักราช1941-1945)
5.แต่ว่าเวลาเดียวกัน ก็มีความรู้สึกว่าเมื่อถึงยุคนี้ซึ่งผู้คนมีความรู้และมีความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสิทธิสตรีและก็เด็กต่างๆประเด็นสำคัญที่ควรต้องตรึกตรองเกี่ยวกับภาพแบบงี้ น่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่จัดวางภาพว่ายังไงก็เลยสมควร (ที่จริงไม่วเซียมเป็นที่ที่สมควรแต่ว่าบางทีอาจควรจะมีคำอธิบายอื่นๆอีกหรือเปล่า ฯลฯ) หรือควรจะใช้ภาพนี้ต่อยอดสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องราวต่างๆกับผู้คนในสังคมยังไงได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่ภาพเพื่อความสนุกสนานหรือความหนำใจหรือแม้กระทั้งมุงมองให้เกิดความรู้สึกทางเพศเสียใจที่จะตอบสนองความรู้สึกเชิงจริยธรรมแสนดีเลิศของตนเองในระยะสั้น
6.นอกจากนี้ น่าพิจารณาว่า หากคุณในรูปภาพมาจากครอบครัวที่เรียกกันว่า “มีชาติ มีตระเราล” คุณอาจไม่ต้องเป็นดารานางแบบเปลือยบูดบึ้งแบบนี้ แล้วก็คุณอาจมีช่องทางเป็นบรรพบุรุษของเราที่ (บางทีอาจ) ทำให้เราจะต้องแผดเสียงต่อต้านว่า “ไม่เอาๆๆๆภาพนี้หมิ่นเกียรติยศยายทวดย่าทวดของพวกเรา หมิ่นวงศ์สกุลพวกเรา ควรเก็บหรือทำลายรูปนี้เสียเหอะ” ฯลฯ
ส่วนตัวเรา ทุกเรื่องในโลกไม่ใช่สีดำขาว รวมทั้งเว้นเสียแต่ข้อเท็จจริงที่เป็น truth ซึ่งไม่บางทีอาจบิดเบือนชนิดพวกเรามองเห็นตะวันขึ้นจากด้านหนึ่งแล้วตกลับฟ้าอีกด้านหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้าม อื่นๆอีกมากมาย กลุ่มนี้ ข้อเท็จจริงอื่นอาจมีได้หลายชุด เป็นต้นว่าถุงข้าวสารห้ากิโลหนักมากมายเป็นความจริงสำหรับคุณยายอายุเก้าสิบปี แม้กระนั้นข้อเท็จจริงสำหรับหลานชายอายุยี่สิบห้าปีเป็นเบามาก หรือเรื่อง LBGTQs ซึ่งเคยคือเรื่องธรรดาในสังคมมนุษย์มานานแล้วก่อนที่จะมีคนมั่นใจว่าแตกต่างจากปกติและก็กำลังจะกลับสู่ความศรัทธาธรรมดาว่าคือเรื่องธรรดา ฯลฯ
เมื่อจำต้องต่อสู้ทางความนึกคิดใดๆก็ตามกับคนร่วมกันเวลาที่เขามีสติสัมปชัญญะ มิได้ถือปืนมาจ่อหัวพวกเราหรือเปล่าได้กำลังน้ำลายฟูมปากต้องการดุหยาบๆระบายอารมณ์ การแลกเปลี่ยนความเห็นด้วยวิธีการอย่างมีเหตุมีผลมีเหตุผลก็เลยบันเทิงใจกว่าแย้งด้วยมาตรฐานจริยธรรมส่วนตัววินิจฉัยถูกไม่ถูกดีชั่วช้าสารเลว พวกเราทุกคนไม่จำเป็นที่จะต้องคิดเช่นเดียวกันแม้กระนั้นอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาตีกันในเรื่องจุกจิกจุ๊กจิ๊ก เพราะว่าเห็นด้วยว่า เอ้อ คิดคนละอย่าง ทำอะไรด้วยกันได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็แยกกันทำ ไม่ต้องบังคับแบบเผด็จการว่าทุกคนจะต้องคิดเสมือนฉันสิ ช่วยเหลือฉันสิ คิดไม่ราวกับฉันเป็นชั่วโคตร จะต้องด่าทอๆๆๆๆๆซึ่งความจริงคงจะมีไม่กี่เรื่องให้พวกเราด่าว่าผู้อื่นได้ว่าหยาบช้า โดยพื้นฐานที่สุดเป็น รังควานบุคคลอื่นหรือทำให้คนอื่นๆตกระกำลำบากเป็นทุกข์หรือกำเนิดการสิ้นไปต่างๆทั้งยังทางร่างกายคำพูดหัวใจ มากมายบ้างน้อยบ้าง
ทั้งผองนั้นเกิดเรื่องรากฐานมากมายๆๆๆๆๆๆแต่ว่าดูเหมือนจะยังคือปัญหาในสังคมวันนี้ไหมนะ?