
‘เชื้อเชิญ’ เปิดเผยเปิดสัมมนาวิสามัญ 7-8 เม.ย. เดินหน้าถก พระราชบัญญัติมติมหาชนต่อ เชื่อ 2 วันพอเพียง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 เดือนมีนาคม ที่สภานิติบัญญัติ นายชักชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงในกรณีที่มีการคาดเดาว่าจะสามารถเปิดสัมมนาสภานิติบัญญัติ ยุควิสามัญ ในวันที่ 7-8 ม.ย. เพื่อตรึกตรองร่าง พระราชบัญญัติมติมหาชนต่อ ว่า มีความน่าจะเป็นไปได้ ซึ่งเท่าที่เสวนากับหลายข้างรวมทั้งปรึกษาขอคำแนะนำกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในช่วงเวลาที่สมควรเป็นวันที่ 7-8 เม.ย. ดังนี้ ได้ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำกับนายสมดงษ์ อมรพัฒนา หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พื้นที่) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายค้าน แล้วก็นายวิษณุ เครือสวย รองนายกฯ เป็นระเบียบแล้ว
นายเชิญชวนบอกว่า ปัญหาอยู่ที่คณะกรรมาธิการต้องพินิจเรื่องที่ค้างอยู่ให้เสร็จ เพื่อใส่ในวันเปิดสัมมนา โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญยอดเยี่ยมชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ จะมีการสัมมนากรรมการ ในวันที่ 1 ม.ย.นี้ และก็จะให้เสร็จ เพราะฉะนั้น ตนมีความรู้สึกว่าวันที่ 7-8 ม.ย. ทางสมาชิกรัฐสภาสามารถจัดแจงร่วมสัมมนาได้
เมื่อถามคำถามว่า การเปิดสัมมนาคราวนี้จะไตร่ตรองร่าง พระราชบัญญัติมติมหาชนสำเร็จเลยหรือเปล่า นายเชิญพูดว่า 2 วันก็เสร็จแล้ว ตนรู้สึกว่าในวันแรกก็คงตรึกตรองเสร็จ ถ้าวันแรกเสร็จ วันที่สองก็จะพินิจร่าง พระราชบัญญัติสารเสพติดต่อ ซึ่งมีอรายละเอียดยาว แม้กระนั้นคนที่ร่วมแปรญัตติมีไม่มากมาย รวมทั้งมีการปรับแก้ไม่กี่มาตรา รู้สึกว่าไม่น่าจะช้ามากมาย ทั้งสิ้นคงจะจบตอนเปิดสัมมนายุควิสามัญ
เมื่อถามคำถามว่า บัดนี้เริ่มมีพรรคการเมืองติดต่อเข้ามาเพื่อเสนอปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราหรือยัง นายเชิญพูดว่า ในเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดเสนอเข้ามา ซึ่งตนรู้เรื่องว่าน่าจะกำลังคิดกันอยู่ แม้กระนั้นจะต้องรอคอยเปิดสัมมนายุควิสามัญก่อน
เมื่อถามคำถามว่า เริ่มมีปริศนาเกี่ยวกับการยุบที่ประชุม จะมีผลให้การปรับแก้รัฐธรรมนูญสะดุดหรือเปล่า นายเชื้อเชิญบอกว่า จำเป็นต้องไปถามรัฐบาล เมื่อถามต่อว่าต่อขาน จะกระทบต่องานที่ค้างอยู่ของข้างนิติบัญญัติไหม นายชักชวนบอกว่า สำหรับข้างที่ประชุม ยังปราศจากความมองเห็นหัวข้อนี้
เมื่อถามหาในกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตกาล สมาชิกวุฒิสภา ยื่นเรื่องร้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่โหวตโหวตเห็นด้วยกับการปรับแต่งร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นายเชื้อเชิญบอกว่า ก็ว่าไปตามขั้นตอนของข้อบังคับ เมื่อถามคำถามว่าในส่วนของสภานิติบัญญัติได้จัดเตรียมหัวข้อนี้ไหม นายชักชวนบอกว่า เขาร้องคนใดกันแน่ ผู้นั้นก็จะต้องไปเตรียมความพร้อมอธิบายหรือแก้ข้อกล่าวหา
เมื่อถามต่อว่าต่อขาน สำหรับที่ลงความเห็นวาระ 3 กรรมวิธีการถูกตามกฎหมายหรือเปล่า นายชักชวนบอกว่า เป็นการเสนอของสมาชิกรัฐสภา เมื่อสมาชิกเห็นดีเห็นชอบให้ลงความเห็น โดยนายไพบูลย์ นิติพระอาทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชนเมือง (พปชราชการ) เสนอให้ลงความเห็นในตอนที่กำลังตรึกตรองค้างอยู่ว่าจะโหวตไหมโหวต และก็ได้เสนอญัตติขึ้นมาใหม่ เพื่อล้มญัตติเดิม โดยห้องประชุมลงความเห็นให้ลงความเห็น ด้วยเหตุนี้ การโหวตทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเป็นไปตามวิธีการของข้อบังคับรวมทั้งข้อบัญญัติ
เมื่อถามคำถามว่า หมายความว่าจะไม่ถูกตั้งแต่นายไพบูลย์เสนอญัตติ นายชักชวนบอกว่า อันนี้ไปดูเอาเองแล้วกัน
Share post:
‘เชื้อเชิญ’ เปิดเผยเปิดสัมมนาวิสามัญ 7-8 เม.ย. เดินหน้าถก พระราชบัญญัติมติมหาชนต่อ เชื่อ 2 วันพอเพียง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 เดือนมีนาคม ที่สภานิติบัญญัติ นายชักชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงในกรณีที่มีการคาดเดาว่าจะสามารถเปิดสัมมนาสภานิติบัญญัติ ยุควิสามัญ ในวันที่ 7-8 ม.ย. เพื่อตรึกตรองร่าง พระราชบัญญัติมติมหาชนต่อ ว่า มีความน่าจะเป็นไปได้ ซึ่งเท่าที่เสวนากับหลายข้างรวมทั้งปรึกษาขอคำแนะนำกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในช่วงเวลาที่สมควรเป็นวันที่ 7-8 เม.ย. ดังนี้ ได้ปรึกษาหารือและขอคำแนะนำกับนายสมดงษ์ อมรพัฒนา หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พื้นที่) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายค้าน แล้วก็นายวิษณุ เครือสวย รองนายกฯ เป็นระเบียบแล้ว
นายเชิญชวนบอกว่า ปัญหาอยู่ที่คณะกรรมาธิการต้องพินิจเรื่องที่ค้างอยู่ให้เสร็จ เพื่อใส่ในวันเปิดสัมมนา โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญยอดเยี่ยมชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ จะมีการสัมมนากรรมการ ในวันที่ 1 ม.ย.นี้ และก็จะให้เสร็จ เพราะฉะนั้น ตนมีความรู้สึกว่าวันที่ 7-8 ม.ย. ทางสมาชิกรัฐสภาสามารถจัดแจงร่วมสัมมนาได้
เมื่อถามคำถามว่า การเปิดสัมมนาคราวนี้จะไตร่ตรองร่าง พระราชบัญญัติมติมหาชนสำเร็จเลยหรือเปล่า นายเชิญพูดว่า 2 วันก็เสร็จแล้ว ตนรู้สึกว่าในวันแรกก็คงตรึกตรองเสร็จ ถ้าวันแรกเสร็จ วันที่สองก็จะพินิจร่าง พระราชบัญญัติสารเสพติดต่อ ซึ่งมีอรายละเอียดยาว แม้กระนั้นคนที่ร่วมแปรญัตติมีไม่มากมาย รวมทั้งมีการปรับแก้ไม่กี่มาตรา รู้สึกว่าไม่น่าจะช้ามากมาย ทั้งสิ้นคงจะจบตอนเปิดสัมมนายุควิสามัญ
เมื่อถามคำถามว่า บัดนี้เริ่มมีพรรคการเมืองติดต่อเข้ามาเพื่อเสนอปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราหรือยัง นายเชิญพูดว่า ในเวลานี้ยังไม่มีผู้ใดเสนอเข้ามา ซึ่งตนรู้เรื่องว่าน่าจะกำลังคิดกันอยู่ แม้กระนั้นจะต้องรอคอยเปิดสัมมนายุควิสามัญก่อน
เมื่อถามคำถามว่า เริ่มมีปริศนาเกี่ยวกับการยุบที่ประชุม จะมีผลให้การปรับแก้รัฐธรรมนูญสะดุดหรือเปล่า นายเชื้อเชิญบอกว่า จำเป็นต้องไปถามรัฐบาล เมื่อถามต่อว่าต่อขาน จะกระทบต่องานที่ค้างอยู่ของข้างนิติบัญญัติไหม นายชักชวนบอกว่า สำหรับข้างที่ประชุม ยังปราศจากความมองเห็นหัวข้อนี้
เมื่อถามหาในกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตกาล สมาชิกวุฒิสภา ยื่นเรื่องร้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่โหวตโหวตเห็นด้วยกับการปรับแต่งร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นายเชื้อเชิญบอกว่า ก็ว่าไปตามขั้นตอนของข้อบังคับ เมื่อถามคำถามว่าในส่วนของสภานิติบัญญัติได้จัดเตรียมหัวข้อนี้ไหม นายชักชวนบอกว่า เขาร้องคนใดกันแน่ ผู้นั้นก็จะต้องไปเตรียมความพร้อมอธิบายหรือแก้ข้อกล่าวหา
เมื่อถามต่อว่าต่อขาน สำหรับที่ลงความเห็นวาระ 3 กรรมวิธีการถูกตามกฎหมายหรือเปล่า นายชักชวนบอกว่า เป็นการเสนอของสมาชิกรัฐสภา เมื่อสมาชิกเห็นดีเห็นชอบให้ลงความเห็น โดยนายไพบูลย์ นิติพระอาทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชาชนเมือง (พปชราชการ) เสนอให้ลงความเห็นในตอนที่กำลังตรึกตรองค้างอยู่ว่าจะโหวตไหมโหวต และก็ได้เสนอญัตติขึ้นมาใหม่ เพื่อล้มญัตติเดิม โดยห้องประชุมลงความเห็นให้ลงความเห็น ด้วยเหตุนี้ การโหวตทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเป็นไปตามวิธีการของข้อบังคับรวมทั้งข้อบัญญัติ
เมื่อถามคำถามว่า หมายความว่าจะไม่ถูกตั้งแต่นายไพบูลย์เสนอญัตติ นายชักชวนบอกว่า อันนี้ไปดูเอาเองแล้วกัน